การที่เด็กไม่ฟังพ่อแต่ฟังแม่มากกว่ามักจะเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความใกล้ชิดหรือความเคยชินในการสื่อสารกับแม่มากกว่า หรือการที่พ่อแม่มีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกัน ดังนั้น วิธีการที่พ่อสามารถใช้เพื่อปรับปรุงสถานการณ์และทำให้ลูกฟังพ่อได้มากขึ้นอาจจะเป็นดังนี้:
- สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับลูก:
- พ่ออาจต้องใช้เวลาร่วมกับลูกมากขึ้น เช่น การทำกิจกรรมที่ลูกสนใจ หรือการใช้เวลาสนุกสนานร่วมกัน เช่น เล่นกีฬา ดูหนัง หรือทำกิจกรรมที่ลูกชอบ เพื่อสร้างความใกล้ชิดและความคุ้นเคย ซึ่งจะทำให้ลูกยอมรับและฟังคำแนะนำจากพ่อได้มากขึ้น
- สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ:
- พ่ออาจจะต้องปรับวิธีการพูดกับลูกให้เป็นมิตรและไม่ตึงเครียด ใช้คำพูดที่ไม่ดุหรือบังคับเกินไป พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและให้โอกาสลูกพูดบ้าง พยายามเข้าใจความรู้สึกของลูก และอย่าพูดในลักษณะที่ทำให้ลูกรู้สึกกลัวหรือไม่อยากฟัง
- ใช้การอ่านนิทานหรือเรื่องเล่า:
- การอ่านนิทานที่มีตัวละครที่มีความสัมพันธ์ดีกับพ่อแม่ หรือเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงการฟังและเชื่อฟังคำแนะนำจากผู้ใหญ่ จะช่วยให้ลูกเห็นแบบอย่างที่ดีในลักษณะสนุกสนาน เช่น นิทานที่ตัวละครต้องฟังคำเตือนจากพ่อแม่และได้รับผลดี จะช่วยให้ลูกเข้าใจว่าการฟังคำแนะนำมีประโยชน์
- ทำให้กฎและข้อบังคับชัดเจน:
- พ่อแม่ควรมีความชัดเจนในเรื่องของกฎและข้อบังคับ เช่น การบอกลูกว่า “ถ้าไม่ฟังคำพ่อจะเกิดอะไรขึ้น” หรือ “การฟังพ่อจะทำให้เรามีสิ่งที่ดีขึ้น” สิ่งสำคัญคือการทำให้เด็กเห็นถึงเหตุผลและผลที่ตามมาจากการฟัง
- สนับสนุนการฟังร่วมกัน:
- พ่อแม่ควรมีการพูดคุยกันและสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในการตั้งกฎระเบียบหรือข้อบังคับต่างๆ โดยทั้งสองคนควรมีแนวทางเดียวกันในการสอนและสนับสนุนการฟังจากลูก ซึ่งจะช่วยให้เด็กไม่รู้สึกสับสนหรือเลือกฟังใครคนใดคนหนึ่ง
- แสดงความรักและความเข้าใจ:
- พ่ออาจต้องแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยให้ลูกเห็น เช่น การให้คำชมเมื่อเขาทำสิ่งที่ดี หรือการทำให้ลูกรู้สึกว่าเขามีความสำคัญ การที่เด็กรู้สึกว่าได้รับความรักจากพ่อจะช่วยให้เขามีความพร้อมที่จะฟังคำแนะนำจากพ่อมากขึ้น
การอ่านนิทานไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกเรียนรู้ค่านิยมและการฟังคำแนะนำจากพ่อแม่ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อและลูกด้วยค่ะ