นิทานมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยส่งเสริมความผูกพันในครอบครัว ด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้:
- สร้างช่วงเวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน: การอ่านนิทานให้ลูกฟัง หรือการเล่านิทานร่วมกัน เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็ก ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างแท้จริง เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะละทิ้งสิ่งรบกวนอื่นๆ และจดจ่ออยู่กับเรื่องราวเดียวกัน
- เสริมสร้างความใกล้ชิดทางอารมณ์: ในขณะที่ฟังนิทาน เด็กจะรู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักจากผู้ที่เล่าให้ฟัง น้ำเสียงที่อ่อนโยน การกอด หรือการสัมผัสขณะเล่า จะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคงทางอารมณ์
- เปิดโอกาสให้มีการสื่อสารและแลกเปลี่ยน: หลังจากการเล่านิทานจบลง พ่อแม่ ผู้ปกครอง สามารถชวนเด็กพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง ตัวละคร หรือข้อคิดที่ได้จากนิทาน เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น ถามคำถาม และเป็นการสื่อสารสองทางที่ส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน
- สร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน: นิทานเรื่องโปรด หรือช่วงเวลาที่ได้ฟังนิทานด้วยกัน มักจะกลายเป็นความทรงจำที่สวยงามและประทับใจในวัยเด็ก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของความผูกพันที่แข็งแกร่งในระยะยาว
- เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสนุกสนาน: การฟังนิทานเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและช่วยลดความตึงเครียดทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุขที่เกิดขึ้นร่วมกัน จะเป็นกาวใจที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกคน: ในบางครั้ง สมาชิกในครอบครัวสามารถผลัดกันเล่านิทาน หรือร่วมกันสร้างสรรค์นิทานขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
- สร้างประเพณีและกิจวัตร: การกำหนดให้มีช่วงเวลาเล่านิทานเป็นประจำก่อนนอน หรือในโอกาสพิเศษต่างๆ จะกลายเป็นประเพณีหรือกิจวัตรของครอบครัว ที่ทุกคนตั้งตารอและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
- ลองนึกภาพบรรยากาศอบอุ่นในห้องนอน แสงไฟสลัว พ่อหรือแม่กำลังอ่านนิทานด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เด็กน้อยนอนฟังอย่างตั้งใจ บางครั้งก็ซุกตัวเข้ามาใกล้ๆ ช่วงเวลาเหล่านี้แหละครับ ที่ความผูกพันในครอบครัวค่อยๆ ก่อตัวและเติบโตขึ้นอย่างเงียบๆ แต่แข็งแรง
- ดังนั้น นิทานจึงไม่ใช่แค่เรื่องเล่าสำหรับเด็ก แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ และความผูกพันอันแน่นแฟ้นในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ